แรกๆ คิดว่ากระท้อนอบแห้งจะทำยาก แต่พอลงมือทำจริงๆ บอกเลย ว่าไม่ยาก... ไม่ยากจริงๆ นะ
เลือกกระท้อนที่ไม่เขียวก็จะดี นำมาปอกเปลือก
วิธีเอาออกจากปุยหุ้มเมล็ด
ให้ผ่าครึ่งแบบแนวขวาง แล้วจับบนล่างบิดสวนทางกัน เพื่อให้เนื้อหลุดออกจากปุยหุ้มเมล็ดที่ฟูๆ ถ้ายังติดอีกด้านหนึ่งของเนื้อกระท้อน ก็ใช้มีดเฉือนออกจากเนื้อได้นะ
หั่นเป็นชิ้น ขนาดที่ชอบ แนะนำให้หั่นเป็นชิ้นขนาดใกล้ๆ กัน
ขั้นตอนการต้ม
ขั้นตอนนี้สำคัญมากนะ เตรียมน้ำเปล่าใส่เกลือ (ทะเล) เล็กน้อย ต้มน้ำให้เดือด แล้วจึงเอากระท้อนที่หั่นลงต้ม จับเวลาประมาณ 6-8 นาที ขึ้นอยู่กับขนาด และความแข็งของกระท้อน (ซึ่งถ้าต้มทั้งลูกแบบไม่หั่นเป็นชิ้น จะใช้เวลาต้ม 10 นาที แล้วเอาขึ้นจากน้ำต้มทันที) ดังนั้นถ้าหั่น เวลาต้มก็ต้องลดหลั่นลงไป ระวังอย่าต้มนานไป จะทำให้กระท้อนเละ
การทำน้ำเชื่อมเพื่อแช่อิ่ม ที่จะต้องใสและไม่หนืดเหนียว
สัดส่วน น้ำเปล่า 1 กิโลกรัม กับ น้ำตาลทรายขาว 1 กิโลกรัม
จะใช้น้อยลงก็ได้ เช่น น้ำครึ่งกิโลกรัม ต่อน้ำตาลทรายขาวครึ่งกิโลกรัม
ใส่น้ำตาลทรายขาวลงในน้ำ แล้วต้มไฟอ่อนๆ รอให้น้ำตาลทรายละลาย
- ใช้ไฟอ่อน เพื่อให้ความร้อนจะค่อยๆ ละลายน้ำตาลและสีน้ำเชื่อมก็จะใสสวย ถ้าใช้ไฟแรง ความร้อนจะทำให้น้ำตาลเปลี่ยนเป็นสีเข้ม น้ำเชื่อมจะสีไม่สวย ผลไม้ที่นำมาแช่อิ่ม ก็จะสีเข้มไม่สวยไปด้วย
- ห้ามคน เพราะจะทำให้น้ำเชื่อมเหนียว แทรกซึมเข้าเนื้อผลไม้ยาก
พักน้ำเชื่อมให้เย็น ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย แล้วเอากระท้อนที่ต้มแล้ว ใส่ลงในน้ำเชื่อม ให้มิดกระท้อน
- ถ้าใส่กล่องหรือขวดโหล ก็ควรจะมีฝาปิดให้สนิท
- ถ้าไม่มีกล่อง ก็ใส่ถุงพลาสติก มัดให้แน่น ไม่ควรมีอากาศข้างในถุง หรือมีน้อยที่สุด
เนื่องจากบ้านเมืองเราอากาศร้อน ก็เลยแนะนำให้เอาเก็บไว้ในตู้เย็น ทิ้งไว้ 4-5 วัน แล้วเอาออกมาชิม ถ้ายังเปรี้ยวเกินไป ก็ทิ้งไว้อีกวันสองวัน จะให้บอกจำนวนวันแน่นอนก็ไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับขนาดที่หั่น และความชอบของคนทาน บางคนชอบทานอมเปรี้ยว ก็ทิ้งวันไม่กี่วัน บางคนชอบทานแบบหวานเลย ก็ควรทิ้งไว้ซะ 5 วันอย่างน้อย
การตากแห้ง
เมื่อได้กระท้อนรสชาดที่ถูกใจแล้ว แนะนำให้ใช้ภาชนะที่เป็นตะแกรง นำกระท้อนออกจากน้ำเชื่อม ตากบนผ้าขาวบางที่สะอาด เรียงเอาส่วนนุ่มขึ้นบน แล้วคลุมด้วยผ้าขาวบาง เพื่อกันฝุ่น กันแมลง และสิ่งสกปรก อีกทั้งจะช่วยให้สีของกระท้อนสวยกว่าตากโดนแดดโดยตรงด้วย
กระท้อนเป็นผลไม้ที่มีความหนามาก จึงต้องตากหลายวันหน่อยนะ
chisom 2 years ago
No English??